10 ทะเลไทย สวยสุดในสยาม สวยงามดีต่อใจ น้ำทะเลใสปิ๊ง
ชวนเที่ยว 10 ทะเลไทย สวยบาดใจ ทั้งหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใส อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการัง ดอกไม้ทะเล และสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด บรรยากาศฟินเว่อร์
ไม่ต้องไปเที่ยวที่ไหนไกล ก็สามารถสัมผัสกับท้องทะเลสวย ๆ ได้ เพราะเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลสวยใสเพียบ เพียงแต่ต้องไปเที่ยวให้ถูกฤดูกาล ก็จะได้เห็นความสวยงามกันแบบจุใจ วันนี้เราจึงได้คัด 10 ทะเลไทยที่สวยติดอันดับต้น ๆ ของบ้านเรา บางแห่งยังติดอันดับโลกอีกต่างหาก จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ
ไม่ต้องไปเที่ยวที่ไหนไกล ก็สามารถสัมผัสกับท้องทะเลสวย ๆ ได้ เพราะเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลสวยใสเพียบ เพียงแต่ต้องไปเที่ยวให้ถูกฤดูกาล ก็จะได้เห็นความสวยงามกันแบบจุใจ วันนี้เราจึงได้คัด 10 ทะเลไทยที่สวยติดอันดับต้น ๆ ของบ้านเรา บางแห่งยังติดอันดับโลกอีกต่างหาก จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ
ไม่ว่าใครได้ไปสัมผัสอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ต่างก็ต้องตกหลุมรักและยกให้ที่นี่เป็นราชาของท้องทะเลไทย ด้วยความงดงามอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลทั้งบนฝั่งและใต้ท้องทะเล บนเกาะต่าง ๆ ก็มีหาดทรายที่ขาวสะอาด สวยสะกดใจ เนื้อทรายเนียนละเอียดกว่าที่ไหน ๆ ใต้ท้องทะเลก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการัง และสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด น้ำทะเลก็เป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส แค่เพียงได้เห็นก็ชื่นใจแล้ว
โดยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันก็มีมากมาย อาทิ เกาะเมียง (เกาะสี่), เกาะสิมิลัน (เกาะแปด), เกาะบอน, อ่าวเกือก, จุดชมวิวลานข้าหลวง, เกาะห้า เป็นต้น เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม - 15 พฤษภาคมของทุกปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ park.dnp.go.th
2. หมู่เกาะสุรินทร์
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ในท้องที่ของอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทะเลที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีท้องทะเลที่สวยงาม น้ำทะเลใสแจ๋ว เป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส ใต้ท้องทะเลมีปะการังที่สมบูรณ์มากมาย อีกทั้งสัตว์ทะเลอีกหลากหลายชนิด เป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และยังเป็นที่ตั้งของชนเผ่าพื้นเมืองอย่างเผ่ามอแกน ซึ่งยังดำรงชีวิตในแบบดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมได้
หมู่เกาะสุรินทร์ แบ่งออกเป็นเกาะสุรินทร์เหนือ และเกาะสุรินทร์ใต้ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะสุรินทร์ อาทิ หมู่บ้านชนเผ่ามอแกน, อ่าวผักกาด, อ่าวช่องขาด, อ่าวไม้งาม, อ่าวไทรเอน, อ่าวกระทิง, อ่าวแม่ยาย, อ่าวจาก, อ่าวบอน, อ่าวเต่า, เกาะตอรินลา เป็นต้น เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม - 15 พฤษภาคมของทุกปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ park.dnp.go.th
3. เกาะรอก จังหวัดกระบี่
เกาะรอก ตั้งอยู่ในเขตเชื่อมต่อระหว่างน่านน้ำจังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง ประกอบด้วยเกาะรอกในและเกาะรอกนอก ความสวยงามของเกาะรอกได้รับการขนานนามให้เป็นราชินีแห่งอันดามันเลยทีเดียว ด้วยน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก หาดทรายขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด และเงียบสงบมาก โดยเฉพาะบริเวณหาดทะลุ บนเกาะรอกนอก ซึ่งมีชายหาดเป็นอ่าวโค้งคล้ายเกือกม้า ทรายขาวละเอียดเนียนนุ่มราวกับผงแป้ง และยังมีอ่าวม่านไทรที่มีหาดทรายยาว มีแนวปะการังน้ำตื้นให้แหวกว่ายชมกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้รอบ ๆ เกาะรอกยังมีจุดดำน้ำแจ่ม ๆ ให้แหวกว่ายไปชมปะการังและดอกไม้ทะเลสวย ๆ พร้อมกับเจ้าปลานีโมมากมาย ถ้าได้ไปสัมผัสสักครั้งคุณจะหลงรักที่นี่แน่นอน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ park.dnp.go.th
4. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
เกาะหลีเป๊ะ ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ดั้งเดิมนั้นที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลมาอย่างยาวนาน เริ่มแรกจะมีเพียงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว เพราะเกาะหลีเป๊ะอยู่ไกลจากท่าเรือปากบารา อำเภอละงู ค่อนข้างมาก ราว ๆ 65 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูง
แต่ก็เพราะความงดงามของหลีเป๊ะ ที่ไม่ว่าจะไกลหรือมีค่าใช้จ่ายแพงมากเพียงใด นักท่องเที่ยวที่ชอบทะเลต่างก็ยอมจ่าย เพราะอยากจะมาสัมผัสกับความงดงามของท้องทะเลหลีเป๊ะกันสักครั้ง ซึ่งหลีเป๊ะก็ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวัง บนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีหาดทรายสีขาว เนื้อเนียนละเอียดราวกับผงแป้ง ตัดกับท้องทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใสอย่างเด่นชัด รอบ ๆ เกาะยังมีแนวปะการังและจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกให้ได้ไปดื่มด่ำมากมายไม่รู้เบื่อ ยิ่งถ้าได้นอนพักบนเกาะหลีเป๊ะ ก็จะได้สัมผัสกับความสวยงามของที่นี่อย่างเต็มรูปแบบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ park.dnp.go.th
5. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะเต่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลของไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยที่นี่มีท้องทะเลที่สวยงาม และบรรยากาศสวยงามสุดโรแมนติก เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนและฮันนีมูน
คุณจะได้พักผ่อนกับห้องพักสวยสุดหรูอยู่บนหน้าผาริมทะเล ไม่ว่าจะยามเช้าหรือตื่นนอนก็จะได้เห็นภาพของท้องทะเลสีฟ้าสวยใส ราวกับว่าท้องทะเลนี้เป็นของเรา มีความเป็นส่วนตัวมาก ๆ รอบ ๆ เกาะก็มีแหล่งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกหลายจุด หากโชคดีก็จะได้ดำน้ำเล่นกับเต่าทะเลอีกด้วย ช่วงเวลาท่องเที่ยวเกาะเต่าจะอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ปลายตุลาคม ซึ่งจะสลับกับทางอันดามัน
6. เกาะกูด จังหวัดตราด
ถ้าถามถึงเพชรเม็ดงามที่สุดในท้องทะเลตะวันออก ก็ต้องยกให้กับเกาะกูด แห่งจังหวัดตราด ด้วยที่นี่ตั้งอยู่ไกลจากแผ่นดินค่อนข้างมาก ทำให้ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมไม่มากนัก ประกอบกับชาวบ้านและคนท้องถิ่นต่างตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จึงช่วยกันอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะกูดและบริเวณโดยรอบเกาะให้ยังคงสวยงามและโดนทำร้ายน้อยที่สุด
บนเกาะกูดเต็มไปด้วยหาดทรายสวยงามหลากหลายหาด แต่ละหาดก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป มีบรรยากาศที่เงียบสงบน่ามาเที่ยวพักผ่อน และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างน้ำตกคลองเจ้า พื้นที่ประวัติศาสตร์ด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 พระราชทานนามว่าน้ำตกอนัมก๊ก เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจลาจลในสมัยรัชกาลที่ 1 นอกจากนี้ยังมีแหล่งดำน้ำตื้นที่อยู่รอบ ๆ เกาะกูดอีกมากมาย บอกได้เลยว่าฟินแน่นอน
7. เกาะพีพี จังหวัดกระบี่
เกาะพีพี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลแห่งแรก ๆ ที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักกับท้องทะเลไทย มีภาพยนตร์ระดับโลกอย่างเรื่อง The Beach มาถ่ายทำที่นี่และทำให้อ่ามาหยา บนเกาะพีพีเลดังเป็นพลุแตก นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างอยากมาเห็นและสัมผัสที่นี่ด้วยตาตัวเองสักครั้ง
เกาะพีพี แบ่งออกเป็น 2 เกาะใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ เกาะพีพีเล และเกาะพีพีดอน โดยอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี การเดินทางมาเที่ยวเกาะพีพีสามารถมาได้ทั้งจากทางจังหวัดกระบี่ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดตรัง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ nps.dnp.go.th อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
8. เกาะเหลาลาดิง จังหวัดกระบี่
หลายคนอาจจะรู้จักชื่อเสียงของเกาะห้อง แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักกับเกาะเหลาลาดิง แห่งท้องทะเลกระบี่ ซึ่งที่นี่ก็มีความสวยงามไม่น้อยไปกว่ากันเลยทีเดียว เกาะเหลาดิง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 30 นาที และจากเกาะห้องประมาณ 10 นาที
เกาะเหลาลาดิง มีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็ก มีชายหาดโค้งเว้าเล็ก ๆ หลบซ่อนอยู่หลังหินปูนที่ขนาบข้างอยู่สองฝั่ง บรรยากาศเงียบสงบ และน้ำทะเลใสมาก สามารถเล่นน้ำหน้าหาด หรือจะนอนเล่นพักผ่อนบนหาดทรายสีขาวสะอาดก็ได้เช่นกัน และจากความงดงามของที่นี่นักท่องเที่ยวจึงขนานนามว่าเป็น Paradise Island สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี โทรศัพท์ 0 7568 1096
9. เกาะมันนอก จังหวัดระยอง
จังหวัดระยอง เป็นเมืองชายทะเลที่มีหาดสวย ๆ และเกาะสวรรค์ให้ไปท่องเที่ยวมากมาย แต่ที่เที่ยวทะเลระยองที่นักท่องเที่ยวต่างยกให้อันดับหนึ่งของเมืองระยอง ก็คือ เกาะมันนอก ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวไทย ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือแหลมตาล ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง ประมาณ 45 นาที มีลักษณะเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่นอกชายฝั่งไกลจากจังหวัดระยองมากที่สุด ซึ่งทำให้บริเวณรอบ ๆ เกาะมีน้ำทะเลที่ใส หาดทรายขาวสะอาดกว่าที่ไหน ๆ ในระยอง
บนเกาะมันนอกจะมีที่พักเพียงที่เดียว จึงทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่เงียบสงบมาก เหมาะแก่การมาพักผ่อน หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง มีกิจกรรมเบา ๆ ชิล ๆ ให้ทำเพื่อความผ่อนคลาย รวมทั้งมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติรอบ ๆ เกาะด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ munnorkprivateisland.com
10. หมู่เกาะกำ เกาะญี่ปุ่น และเกาะค้างคาว จังหวัดระนอง
เกาะค้างคาว
หลายคนคงลืมไปว่าท้องทะเลจังหวัดระนองก็อยู่ทางฝั่งอันดามัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามไม่แพ้จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา หรือจังหวัดกระบี่ เลยทีเดียว โดยเฉพาะเกาะเล็ก ๆ อย่างหมู่เกาะกำ เกาะญี่ปุ่น และเกาะค้างคาว อันอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติแหลมสน
แต่ละเกาะนั้นก็สวยงามแตกต่างกันออกไป อย่างเกาะกำตกก็มีแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนอย่างอ่าวเขาควายและจุดชมวิวทะเลกว้างใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ ส่วนถ้าใครอยากว่ายน้ำชมปะการังสวย ๆ ก็สามารถไปเที่ยวชมได้ที่เกาะญี่ปุ่น ส่วนหาดทรายขาว ๆ สวยแบบสะกดใจ ก็ต้องไปชมกันที่เกาะค้างคาว ระดับความงามต้องบอกว่าให้คะแนนเต็มเลย เพราะนอกจากธรรมชาติของหาดทรายและท้องทะเลจะสวยมาก ๆ แล้ว ยังมีบรรยากาศเงียบสงบ มีนักท่องเที่ยวไม่กี่คนบนเกาะ มีความเป็นส่วนตัวสูง
การเที่ยวหมู่เกาะกำ เกาะญี่ปุ่น และเกาะค้างคาว สามารถไปเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแหลมสน โทรศัพท์ 0 7786 1431
นอกจาก 10 ทะเลไทยที่ได้กล่าวมานี้ ก็ยังมีท้องทะเลสวย ๆ อีกมากมายในเมืองไทยที่น่าไปเที่ยวไปสัมผัส หากเราเที่ยวกันด้วยใจอนุรักษ์ ช่วยกันดูแลและรักษาธรรมชาติ เราก็จะมีทะเลดี ๆ แบบนี้ให้เที่ยวชมไปอีกนาน และไม่ต้องเดินทางไกลไปเที่ยวที่ไหนอีกด้วย :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
park.dnp.go.th, ททท., ททท., ททท.kapook.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น