“ลูกเทพ” ใช่เทวดาเชื่อคนง่ายอยากรวย

loading...

ความเชื่อและความศรัทธา เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้ความรู้...ความเข้าใจแก่ผู้คนในสังคม โดยเฉพาะในสังคมแห่งความเป็น “ชาวพุทธ” อะไรสมควร?...อะไรไม่สมควร?
กรณีใหม่หมาด กระแสความเชื่อ...“ลูกเทพ” ผลดี...ผลร้ายที่จะติดตามมาเป็นอย่างไร ถึงวันนี้สังคมคงได้รับรู้กันไปไม่มากก็น้อย
พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก เลขานุการมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ เขตธนบุรี กทม. บอกว่า คำว่า...“ลูกเทพ” ที่ผู้คนในสังคมตั้งชื่อขึ้นมา ก็เปรียบเสมือนสิ่งที่กำลังเคารพบูชาอยู่ในขณะนี้ว่าเป็นลูกของตนเองและเป็นเทวดาของตนเอง การได้สิ่งของที่น่ารักน่าเอ็นดูมาอยู่ภายใต้อ้อมกอดแล้วทำให้ตนเองมีความสุขนั้นก็มิใช่จะเป็นเรื่องที่จะปฏิเสธกัน...เพราะคนเรามีจริตที่ไม่เหมือนกัน มีความศรัทธาที่ไม่เหมือนกัน
แต่ของที่รักและบูชานั้นได้ถูกยกระดับให้กลายมาเป็น “เทวดา” หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น จนกลายเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจกลายเป็นกรณีที่น่าเป็นห่วง
“เทวดามิใช่วัตถุที่สัมผัสได้ แต่เทวดาเป็นนามธรรมที่ผู้คนเคารพและบูชาแล้วเกิดความอิ่มใจ มั่นใจและสุขใจ นำตนเองไปสู่ความรู้ ความสะอาด ความสว่างและความสงบ เกิดสติและเกิดปัญญาจนเห็นแจ้งว่านั่นเป็นวัตถุที่นำมาบูชาเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ความสุขทางใจและมีความหวังเพียงเท่านั้น”
พระมหาสมัย ย้ำว่า การที่คนใดคนหนึ่งจะเห่อตามกระแสนิยมแล้วไปบูชาลูกเทพตามแหล่งผลิตและแหล่งจำหน่ายมาอยู่คู่กับตนเองเพื่อให้เกิดความอบอุ่นทางจิตใจบ้าง เพื่อให้เกิดขวัญ...กำลังใจในการดำเนินชีวิตบ้าง เพื่อให้เกิดแรงผลักดันให้ตนเองไปสู่ความสำเร็จในอาชีพ...หน้าที่การงานบ้าง เราก็คงไม่ปฏิเสธกันเพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลและความหวังส่วนบุคคล
แต่ถ้านำไปอยู่กับตนเองแล้วได้เผยแพร่ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ต่างๆนานา เกิดปาฏิหาริย์ทำให้เกิดโชคลาภโดยเฉพาะจาก “การ พนัน” ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเรียกว่าให้เกิดรวยทางลัด
โดยปราศจากความขยันขันแข็งในการทำมาหาเลี้ยงชีวิต ขาดความเพียรพยายาม ใช้ชีวิตที่ไม่มีเสน่ห์ ใช้ชีวิตที่มีแต่เล่ห์เหลี่ยมฉ้อโกงหลอกลวงผู้อื่นแล้วชักชวนคนอื่นให้หันมาเช่า...บูชาสิ่งที่ตนเองเชื่อถือก็จะกลายเป็นปัญหาทางสังคมติดตามมา เพราะจะเกิดมีผู้บริโภคมากขึ้น มีการตลาดมากขึ้น มีผลประโยชน์ทางการค้าขายมากขึ้น ในที่สุดปัญหาทางสังคมก็จะติดตามมาเพียงเพราะความเชื่อ...ความศรัทธาที่ผิดๆ
loading...

การโหนกระแสทางสังคมเพียงเพื่อมิให้ตนเองตกยุค ดังกรณียุค “จตุคามรามเทพ” ก็มีให้เห็นมาแล้ว
สิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของผู้คนในสังคมตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาต่างๆ ก็มีให้ศึกษาและปฏิบัติกันอยู่แล้ว คนเราถ้านับถือสิ่งใดแล้วก่อให้เกิดความรักและความศรัทธายิ่งขึ้น ปฏิบัติแล้วก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีและน่าสนับสนุน แต่ถ้ายึดถือแล้วเกิดตัวกูของกูติดแน่นโดยขาดสติและสัมปชัญญะ ขาดการไตร่ตรองพิจารณาด้วยสติปัญญาของตนเองจนเกิดการยึดมั่นถือมั่นจนอาจจะแลกด้วยชีวิตแล้วก็เป็นสิ่งที่จะต้องตักเตือนและให้สติกัน
“บางกรณีเมื่อเกิดความศรัทธาแล้วสามารถกระทำการบางอย่างได้แลกด้วยชีวิตก็มี จึงกลายเป็นศรัทธาที่หลงงมงาย กลายเป็นศรัทธาที่ขาดสติ กลายเป็นศรัทธาที่ขาดการใช้ปัญญา”
คนที่รักและบูชาลูกเทพมิใช่คนเสียสติหรือคนสติฟั่นเฟือน แต่มนุษย์ร่วมโลกของเราที่พวกเขารักและบูชาสิ่งนั้นๆ ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามกระแสเพราะเป็นความชื่นชอบส่วนบุคคล ตราบใดที่พวกเขาไม่หลงงมงาย ไม่เพ้อบ่นอยู่กับตุ๊กตาลูกเทพตลอดทั้งวัน ไม่อวดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อย่างใดอย่างหนึ่ง
“ดูแลลูกเทพเลี้ยงลูกเทพแล้วจะมีความสุข เกิดความสงบสุขในครอบครัว ผู้คนในครอบครัวต่างมีความรักความอบอุ่น ต่างช่วยกันขยันทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ดำเนินชีวิตประจำวันอย่างปกติสุขแล้วก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีเพราะนั่นเป็นเรื่องของศรัทธา”
เราอย่าไปปฏิเสธศรัทธาของแต่ละคนเพราะคนเราย่อมมีพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน เกิดมาในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่แตกต่างกัน ใจเขาเป็นอย่างไรก็อย่าไปบังคับให้เหมือนใจเรา
การที่พระสงฆ์บางรูปหรือบางสำนักได้ลงยันต์ให้เกิดความขลังและกลายเป็นตุ๊กตาที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นการกระทำที่มิใช่กิจสงฆ์ พระสงฆ์ไม่ควรทำโดยประการทั้งปวงหรือจะห้อยกระแสทางสังคมโดยการผลิตและจำหน่ายให้ประชาชนเข้าไปเช่าไปบูชานั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ ทางที่ดีพระสงฆ์ตามวัดวาอารามต่างๆ
“ควรจะถือเอาวิกฤติศรัทธาของชาวบ้านนี้พร่ำสอนให้ความรู้ความเข้าใจตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ว่าอะไรถูกอะไรผิดน่าจะดีกว่าถือโอกาสมุ่งถึงผลประโยชน์ทางด้านทรัพย์สินเงินทอง...
อย่าให้เกิดเรื่องของความงมงายเข้ามาครอบงำจิตใจของชาวบ้านและชาวพุทธ”
พระครูวิธาน กิจจาทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดมหาบุศย์ เปิดแง่ธรรมคติคิดเสริมว่า คนไทยเชื่อคนง่าย อะไรนิดหน่อยก็จ้องจะเป็นหวยเสียหมด ต้องมีสติสัมปชัญญะ...ว่าจะทำอะไรบ้าง ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยเกินกว่าเหตุ ได้น้อย...ใช้มาก มันก็ขาดทุน ต้องได้มาก...ใช้น้อย เหลือเก็บไว้บ้างยามแก่ยามเฒ่า
ทุกคน...แก่ตายเหมือนกัน ก็ให้ตายแบบสบายๆ คนที่มีเงิน มีทรัพย์ คนรวยๆก็ไม่ได้สบายนะ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสบาย...ไม่น้อยก็ไม่ได้สบาย ไม่มีความสุข จึงอยู่ที่ใจคน มีความสุขแล้วจะรวยก็ได้... จะจนก็ได้
“คนรวยได้เปรียบที่ว่ามีเงินเยอะหน่อย...จ้างเขาบ้าง ให้ลูกหลานมาอยู่ใกล้ๆ บางทีลูกหลานจริงๆเดี๋ยวนี้ก็ต้องจ้างให้มาอยู่ด้วยเลยนะ คนรวยก็มีปัญหา ถ้าจนก็อีกปัญหา อาจถูกเอามาปล่อยวัด”
ศาลย่านาคคนเข้าไม่ขาด เสริมกำลังใจกันเท่านั้น “ขอกำลังใจ ขอโน่นขอนี่ เขาไม่ได้ขอแค่โชคลาภหรอก ขอหลายๆอย่าง... ธรรมชาติให้ไม่ได้ ต้องใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย”
ถ้าธรรมชาติก็ต้องขยันทำมาหากิน เก็บหอมรอมริบใช้ในยามตอนเจ็บไข้ แก่ตัวไปแล้ว คนโบราณฉลาดนะ เทียบกับสมัยนี้ เป็นพ่อเป็นแม่คนหาที่หาทางมาให้ลูกใช้ได้เป็นร้อยๆไร่ สมัยนี้กระแบะมือยังไม่มีปัญญาจะไปหาให้ลูกใช้ ลองไม่ได้สมบัติเก่ามากินก็แย่แล้ว
“อยากให้ช่วยตัวเอง พึ่งตัวเองให้มาก นิสัยคนไทย...ไม่น้อยที่เห็นมา พอได้มาหน่อยก็ขี้เกียจแล้ว สังเกตดูพ่อค้าแม่ค้าในวัดนี่แหละ บางคน พอจะมีจะกินอ้าปากได้ก็หยุด เลิกแล้วก็มาขายใหม่ตอนหมดแล้ว แล้วจะไปหาความรวยมาจากไหน ก็ต้องไปกินเนื้อเก่าอยู่เรื่อย เราไม่ได้สร้างเนื้อใหม่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้พอกพูนขึ้นมา”
ยุคนี้มนุษย์ทุกชีวิตอยู่ยากลำบากขึ้น ใกล้จะเป็นสัตว์เต็มตัวเข้าไปทุกวันแล้ว ก็เพราะไม่รักษาคุณภาพของคนเอาไว้ ปล่อยให้เละเทะ ติดโน่น ทำนี่ ทุกสิ่งทุกอย่าง เรา...เป็นคนทำเองทั้งนั้น
“สังคมเปลี่ยน วัตถุเจริญ แต่จิตใจเจริญไม่ทัน วัยที่ต้องศึกษาหาความรู้ก็ไปติดเกมหรือยังไง ไม่เรียนหนังสือ ไม่ได้ใช้เวลาเพื่อใฝ่รู้ เพื่ออนาคต อาชีพหน้าที่การงาน...ขณะเดียวกันบางคนความรู้มีมาก น่าจะทำประโยชน์ให้มากกลับไปทุจริต เอาเทคนิคความรู้เหล่านั้นยัดใส่หูบ้าง ใส่แว่นบ้าง สร้างระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่”
อนาคตขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่...คนในครอบครัวทุกคนที่ต้องให้การ อบรมสั่งสอนเด็กเยาวชน สิ่งนี้ควร...สิ่งไหนไม่ควร ไม่ถึงกับต้องห้ามไปทุกอย่าง...อย่าตามใจลูกร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องพร่ำสอนให้เป็นคนดี.
from Thai Rat.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

4 สาว แก๊งนางฟ้า เต้นยั่วเบาๆ ในชุดบิกินี่ตัวจิ๋ว

10 ดาราสาวไซส์เล็ก แต่ความเซ็กซี่เบอร์ใหญ่มากกก